Ultraformer III ยกหน้าเรียวแบบไม่พึ่งเข็ม ยกกระชับหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด
- Ultraformer III คืออะไร
- Ultraformer III ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- Ultraformer III กับ HIFU ต่างกันยังไง
- ซีรีนคลินิกมาสรุป HIFU ปกติ กับ Ultraformer III แตกต่างกันยังไง
- Ultraformer III ทำจุดไหนได้บ้าง
- Ultraformer III ดีไหม?
- Ultraformer III เหมาะกับใคร
- Ultraformer III ควรทำกี่ช็อต
- ทำ Ultraformer III กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน
- Ultraformer III, Ulthera, Thermage แตกต่างกันยังไง
Ultraformer III คือทางเลือกของคนกลัวเข็ม ยกกระชับแบบไม่ต้องผ่าตัด ลดริ้วรอย ลดแก้ม ลดเหนียง ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน แก้ปัญหาหน้าห้อยได้ตรงจุด ultraformer III กลายเป็นหัตถการยอดนิยมของหนุ่มๆ สาวๆ ในยุคนี้ที่ต้องการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า Ultraformer III ช่วยเรื่องอะไรได้อีกบ้าง เหมาะกับใคร ทำแล้วหน้าจะเรียวไหม ก่อนทำ Ultraformer III ต้องรู้อะไร ซีรีนคลินิกรวมคำตอบไว้ให้ในบทความนี้
Ultraformer III คืออะไร
Ultraformer III (อัลตราฟอร์เมอร์ ทรี) คือ เครื่องยกกระชับผิวที่สามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย กระชับแก้ม ลดเหนียง ช่วยลดริ้วรอยให้ดูจางลง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยให้ผิวแข็งแรง หน้าดูเด็กขึ้น
Ultraformer III ยังเป็นเครื่องกระชับผิวรุ่นใหม่ที่พลังงานสูงและเสถียรกว่า HIFU ทั่วไป ส่งคลื่นพลังงานลงสู่ชั้นผิวบนสุดจนถึงผิวชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า คลื่นพลังงานที่สม่ำเสมอทำให้กล้ามเนื้อหดตัว จึงช่วยผิวด้านนอกยกกระชับได้โดยไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ปลอดภัย เห็นผลหลังทำทันที 10-20%
Ultraformer III ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
- เก็บกระเปาะแก้มและเหนียงที่ห้อยจากหน้าหย่อนคล้อย
- ยกกระชับหน้า แก้ปัญหาหน้าเหี่ยว ผิวไม่กระชับ
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวเด็ก ผิวแน่นขึ้น
- ปรับรูปหน้า แก้ปัญหากรอบหน้าไม่ชัด ช่วยให้หน้า V-Shape
- ลดริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก ร่องแก้ม รอยพับรอบคอ
- แก้ปัญหาหนังตาตก คิ้วตก
Ultraformer III กับ HIFU ต่างกันยังไง
- Ultraformer III คือชื่อยี่ห้อเครื่องกระชับผิวรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมที่สุดในตอนนี้ พลังงานสูงกว่า HIFU ปกติ 5 เท่า มีหัวยิงหลายหัว ยิงได้ครบทุกระดับชั้นผิว แก้ปัญหาผิวได้แม่นยำ ยกกระชับผิว แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย กรอบหน้าชัด หน้าดูเล็กเรียว ลดริ้วรอยตื้นๆ ให้ดูจางลง กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวดูเด็กขึ้น พลังงานสูงและเสถียรมากกว่า HIFU รุ่นอื่นๆ
- เครื่อง HIFU เป็นเครื่องยกกระชับผิวรุ่นเก่า ประสิทธิภาพต่ำกว่า Ultraformer III พลังงานต่ำและไม่เสถียร
ซีรีนคลินิกมาสรุป HIFU ปกติ กับ Ultraformer III แตกต่างกันยังไง
Ultraformer III ทำจุดไหนได้บ้าง
Ultraformer III ลดเหนียง
Ultraformer III ช่วยลดเหนียงที่ดูห้อย ทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น ยกกระชับเหนียง ช่วยให้หน้าเรียวขึ้น ยิ่งทำคู่กับแฟตเหนียงจะยิ่งช่วยให้หน้าเรียวกระชับชัดเจน
Ultraformer III ลดแก้ม
Ultraformer III แก้ม เหมาะกับคนที่มีกระเปาะแก้ม แก้มหย่อน หน้าบาน หลังทำกระเปาะแก้มจะเล็กลง ผิวกระชับขึ้น หน้าเล็กเรียวขึ้น
Ultraformer III ยกหางตา
ช่วยยกหางตา ช่วยลดริ้วรอยตื้นๆ รอบดวงตาได้อย่างปลอดภัย ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ตึงกระชับขึ้น แก้ปัญหาถุงใต้ตาเป็นก้อน
Ultraformer III ยิงผิวตื้นๆ ทั่วใบหน้า
ช่วยยกกระชับผิวทั่วใบหน้า ลดริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยให้ผิวใส ผิวตึง ช่วยให้หน้าดูเด็กลง
Ultraformer III ลำคอ
Ultraformer III ลำคอช่วยลดรอยพับที่คอ ช่วยให้เส้นที่คอจางลง ยกกระชับผิวรอบคอที่หย่อนให้ตึงขึ้น ลดริ้วรอยช่วยให้ผิวเรียบเนียน
ทำ Ultraformer III เอว สะโพก
บริเวณเอวหรือสะโพกที่มีไขมันสะสม หรือผิวไม่เรียบเนียน Ultraformer III จะช่วยสลายไขมันและกระชับผิวให้ตึง นิยมทำคู่กับการฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน หรือทำ Ultraformer III ต่อเนื่องเพื่อลดสัดส่วนและกระชับผิว
Ultraformer III หน้าท้อง
ช่วยสลายไขมันหน้าท้อง กระชับผิวให้ตึง เรียบเนียน นิยมทำคู่กับการฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน ออกกำลังกายและคุมอาหาร จะยิ่งช่วยลดไขมันและลดสัดส่วนได้ดี
Ultraformer III ต้นแขน ต้นขา
ช่วยสลายไขมันต้นแขน ต้นขา ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดเซลลูไลท์ ลดผิวเปลือกส้ม ยิ่งทำคู่กับกับเมโสแฟต จะช่วยลดไขมันได้ดีมากขึ้น ผิวไม่ย้วย ขาเรียว แขนเรียวขึ้น
Ultraformer III ดีไหม?
Ultraformer III เป็นทางเลือกของคนที่อยากยกกระชับใบหน้า อยากหน้าเรียวเป๊ะ แต่กลัวการผ่าตัด กลัวเข็ม แพ้ฟิลเลอร์ แพ้ยาชา เป็นหัตถการที่ปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่หลังทำเสร็จทันที 10-20%
- คลื่นพลังงาน Micro Macro Focused Ultrasound (MMFU) พลังงานสะสมสูงกว่า HIFU ปกติ 5 เท่า
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเด็ก ผิวตึง ยกกระชับผิวได้ดี
- เจ็บน้อย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- หัวยิงหลายหัวแยกตามระดับความลึกของผิว แก้ปัญหาได้ครอบคลุมกว่า HIFU รุ่นอื่นๆ
- มีหัวยิงพิเศษ Cherry Pink ใช้กับเครื่อง Ultraformer III รุ่นท็อปโดยเฉพาะ ลงถึงระดับความลึก 2.0 mm. กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวดูเด็กขึ้น
Ultraformer III เหมาะกับใคร
อัลตร้าฟอร์เมอร์ ช่วยแก้ปัญหาหน้าเหี่ยว ไม่กระชับ มีกระเปาะแก้ม เหมาะกับทุกช่วงอายุ สามารถทำในตอนที่หน้ายังไม่เหี่ยว ไม่มีริ้วรอย เพื่อให้ผิวแข็งแรงขึ้น ชะลอการเกิดริ้วรอยถาวร หน้าเด็กกว่าคนวัยเดียวกัน ส่วนคนที่มีริ้วรอยถาวรแล้ว ผิวเหี่ยวไม่กระชับ การทำ Ultraformer III ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตรงจุด ผิวจะแน่นขึ้น เต่งตึงขึ้น หน้าดูเด็กขึ้น
Ultraformer III ควรทำกี่ช็อต
ช็อต (Shot) คือหน่วยนับจำนวนครั้งที่ยิงพลังงาน คนที่สงสัยว่า ทำ Ultraformer III กี่ช็อตดี อยากหน้าเรียวต้องยิงกี่ช็อต เพื่อผลลัพธ์สูงสุดควรให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเป็นผู้ประเมินก่อนทำ เพราะปัญหาผิว โครงสร้างผิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซีรีนคลินิกรวมจำนวนช็อตเริ่มต้นที่เหมาะกับผิวแต่ละจุด
- แก้ม 2 ข้าง 400-600 shot
- เหนียง 400-600 shot
- หน้าผาก หางตา ยกคิ้ว ด้วยหัว Cherry Pink 200-400 shot
- ทำทั่วใบหน้า กระตุ้นคอลลาเจน ด้วยหัว Cherry Pink 200-400 shot
- คอ 200-400 shot
- ต้นแขน 2 ข้าง 600-1,000 shot
- ต้นขา 2 ข้าง 1,000-2,000 shot
- หน้าท้อง 1,000-2,000 shot
ทำ Ultraformer III กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน
Ultraformer III หลังทำจะรู้สึกผิวกระชับ หน้าเรียวขึ้น 10-20% และจะเห็นผลชัดเจนหลังทำ 1-2 เดือน ตาม Skin Cycle ของผิว หน้าจะเรียวขึ้น ผิวตึงกระชับ ริ้วรอยตื้นๆ จางลง หน้าดูสดใสขึ้น สัดส่วนลดลง ผลลัพธ์คงอยู่ได้ 4-6 เดือน (ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวและพฤติกรรมของแต่ละคน)
Ultraformer III, Ulthera, Thermage แตกต่างกันยังไง
แต่ละหัตถการมีจุดเด่นและความแตกต่างกัน ดังนี้
- Ultraformer III ใช้พลังงานจากคลื่นอัลตร้าซาวด์ High Intensity Focus Ultrasound กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน เสริมความแข็งแรงให้ผิว ลดเหนียง ลดกระเปาะแก้ม ลดร่องแก้ม ยกกระชับผิว เน้นกรอบหน้า เห็นผลเต็มที่ภายใน 2-3 เดือน อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
- Thermage ใช้พลังงานจากคลื่นวิทยุ Monopolar RF เป็นการยิงคลื่นพลังงานขนาดใหญ่ลงไปที่ชั้นผิว เพื่อสลายไขมันและปรับคุณภาพผิวชั้นบนให้ดีขึ้นโดยเฉพาะ เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันบนใบหน้า ต้องการกระตุ้นคอลลาเจน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
- Ultheraใช้พลังงานจากคลื่นอัลตร้าซาวด์ เหมือนกับ Ultraformer III ต่างกันที่มีการพัฒนาหน้าจอที่ใช้ดูระดับความลึกของพลังงานที่ยิงลงไปในชั้นผิว แต่มีราคาแพงกว่าและเจ็บกว่า ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 8-12 เดือน เหมาะกับคนที่ไขมันบนหน้าน้อยแต่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
ยิง ultraformer III เจ็บไหม
อาการเจ็บ(เหมือนยางดีด) ถือเป็นเรื่องปกติของการทำ ultraformer III เพราะเป็นเครื่องยกกระชับพลังงานสูง มีมาตรฐานกว่าเครื่องยกกระชับรุ่นอื่นๆ ส่งคลื่นพลังงานลงสู่ผิวชั้น SMAS ที่เป็นชั้นผิวระดับลึก ยกกระชับได้ดีกว่า HIFU ทั่วไป ถ้ากังวลว่าจะเจ็บระหว่างทำ ที่ Zerene Clinic จะทายาชาก่อนทำ Ultraformer III ให้ฟรีทุกเคส ระหว่างทำจะรู้สึกอุ่นๆ และตึงผิวในระดับที่ทนได้
Ultraformer III พักฟื้นกี่วัน
การทำ ultraformer III ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น หลังทำเสร็จจะยังรู้สึกอุ่นๆ ผิวตึงขึ้น คนที่ผิวขาวอาจจะผิวแดง เป็นอาการปกติที่ไม่อันตราย หายได้เองใน 1-2 ชั่วโมง ถ้ามีอาการปวดหรือตึงมาก สามารถกินยาแก้ปวดได้
Ultraformer III ราคาเท่าไหร่?
วิธีเตรียมตัวก่อนทำ Ultraformer III
- เช็กความน่าเชื่อถือของคลินิก และเลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์สูง หมอมีตัวตนจริง
- แจ้งประวัติการฉีดหน้าและทำศัลยกรรม
- แจ้งประวัติการแพ้ยา, ยาที่กินเป็นประจำ, โรคประจำตัว และภาวะการตั้งครรภ์กับคุณหมอก่อนทำ Ultraformer III ทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
- บอกผลลัพธ์ที่ต้องการให้คุณหมอทราบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงจุด
การดูแลหลังทำ Ultraformer III
บางคนอาจมีอาการผิวแห้งหลังทำ Ultraformer III ซึ่งเกิดจากการทายาชา ซึ่งไม่อันตรายและสามารถทาครีมบำรุง หรือมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวได้
ถ้ามีอาการปวดหรือตึงผิวมาก สามารถกินยาแก้ปวดได้
Ultraformer III เป็นหัตถการที่ไม่ต้องพักฟื้น แทบไม่ต้องดูแลผิวหลังทำ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เครื่อง Ultraformer เครื่องแท้ดูยังไง
1 . หน้าจอและตัวเครื่อง มีโลโก้แบรนด์ Ultraformer III สกรีนบนผิวของเครื่อง
2. ตัวเครื่องต้องมีสัญลักษณ์ MMFU (Micro and Macro Focused Ultrasound)
3. แสกน QR Code ข้างหน้าจอเพื่อเช็กชื่อคลินิกที่ซื้อและบริษัทที่จำหน่ายได้
4. สติ๊กเกอร์โฮโลแกรม ติดรอบเครื่อง และติดที่ก้านหัวยิง Handpiece ทั้งสองก้าน
5. หัวยิง Handpiece มีโลโก้แบรนด์ Ultraformer III บริเวณด้ามจับสกรีนคำว่า “CLASSYS”
6.ใช้หัวยิง Handpiece หัวที่เหมาะกับความลึกของผิวแต่ละชั้น
*เพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้น ท่านสามารถโทรสอบถามรายชื่อคลินิกที่จัดซื้อเครื่องแท้จากผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย หรือที่เว็บไซต์
https://www.qhtaesthetics.com/search.php
ทำ Ultraformer III ที่ไหนดี 2024
ควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานผ่านการรับรอง แล้วคลินิกที่มีมาตรฐาน ต้องมีอะไรบ้าง วิธีสังเกตง่ายๆ คือ
1. เช็คเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก คลินิกที่ผ่านการรับรอง ต้องแสดงใบอนุญาตในบริเวณที่สามารถสังเกตได้ชัดเจน
2. เช็กคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านช่องทางของสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โทร : 02-1937000
3. เช็กความน่าเชื่อถือของคลินิกจากรีวิวบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หน้าเว็บไซต์และช่องทาง Official Page ของคลินิก
4. คลินิกต้องมีใบรับรองจากบริษัทผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายเครื่อง Ultraformer III ติดในบริเวณคลินิกที่มองเห็นได้ชัดเจน
5. คลีนิกที่ดีควรมีการดูแลและติดตามผลหลังฉีด
6. คุณหมอที่ให้บริการในคลินิก มีประสบการณ์ มีตัวตนอยู่จริง สามารถเช็กจากฐานข้อมูลแพทยสภา Website: checkmd.tmc.or.th หรือโทร 0 2193 7000
7. โปรโมชั่น ราคาและบริการต่างๆ สมเหตุสมผล ไม่แอบอ้างสรรพคุณเกินจริง
ทำ Ultraformer III ที่ ซีรีนคลินิก ดีไหม?
ทำ Ultraformer III ที่ ซีรีนคลินิก ดียังไง?
- เครื่อง Ultraformer III ในทุกสาขาเป็นเครื่องแท้ มีมาตรฐานรับรองจากยุโรป ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย
- หัวยิงยอดนิยมครบทุกหัว แก้ปัญหาตรงจุด
- หัวยิงพิเศษ Cherry Pink ยิงคลื่นพลังงานได้แม่นยำ สม่ำเสมอ กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวกระชับ หน้าตึง หน้าเด็กขึ้น
- ก่อนทำประเมินผิวและจำนวนช็อตกับคุณหมอฟรี
- บล็อคยาชาฟรี
Q&A Ultraformer III
Q: ทำ Ultraformer III หน้าเรียวไหม
A: Ultraformer III ทำให้หน้าเรียวเพราะช่วยเก็บกระเปาะแก้ม ลดเหนียง ถ้าหน้าใหญ่ เหนียงเยอะ ไขมันเยอะ ทำ Ultraformer III คู่กับแฟตแก้มเหนียง จะยิ่งช่วยให้หน้าเรียวชัดเจน
Q: Ultraformer III มีกี่หัว
A: Zerene Clinic มีหัวยิงหลักครบทั้ว 3 หัว สามารถแก้ปัญหาผิวได้ครบทุกชั้น
- หัวยิง 2.0 mm. หรือ หัวยิงพิเศษ Cherry Pink (สีชมพู) ทรง narrow shape หัวเรียวเล็กกว่าทุกหัว ยิงได้แม่นยำ ช่วยยกกระชับผิวรอบดวงตา หน้าผาก ช่วยให้ผิวแน่น กระตุ้นคอลลาเจน ผิวดูเด็กขึ้น ลดริ้วรอยตื้นๆ ได้ทั่วหน้า ช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้น
- หัวยิง 3.00 mm. (สีเขียว) กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเรียบเนียน แน่นกระชับ ลดความหย่อนคล้อย ช่วยลดไขมันและเซลลูไลท์
- หัวยิง 4.5 mm. (สีน้ำเงิน) ลงลึกถึงผิวหนังชั้น SMAS ที่อยู่ลึกสุด ช่วยยกแก้ม ลดเหนียง ลดรอยพับที่คอ เก็บกรอบหน้า
Q: อยากหน้าเรียวทำ Ultraformer III หัวไหนดี
A: เนื่องจากผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ถ้าอยากให้หน้าเรียวกระชับ ซีรีนคลินิกแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำ Ultraformer III เพื่อประเมินปัญหาผิวและเลือกหัวยิงที่เหมาะกับปัญหา
Q: Ultraformer III แก้ปัญหาร่องแก้มได้ไหม
A: ปกติแล้วการทำ Ultraformer III จะช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้นได้บางส่วน ดูจางลงได้ในระดับนึง เหมาะกับคนที่มีร่องแก้มตื้นๆ ส่วนคนที่ร่องแก้มลึก เพราะแก้มห้อยหนัก ซีรีนคลินิกแนะนำให้ทำควบคู่กับฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและเห็นผลดีที่สุด
Q: Ultraformer III ข้อดีข้อเสีย มีอะไรบ้าง
A:
Ultraformer III ข้อดี
- ยกกระชับผิว ยกแก้ม เก็บเหนียง
- ไม่มีแผล ไม่ต้องฉีด ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
- เห็นผลหลังทำทันที 10-20%
- กระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง ตึง ยกกระชับผิว หน้าเด็กขึ้น
Ultraformer III ข้อเสีย
- ใช้ระยะเวลาเห็นผลเต็มที่ นานกว่าหัตถการอื่น
- คนที่ผิวหย่อน ผิวพับมากๆ โดยเฉพาะคนที่มีอายุมากจะเห็นผลน้อยกว่าคนที่ยังอายุน้อย ควรทำคู่กับหัตถการอื่นๆ เช่น ฉีดลดริ้วรอย ร้อยไหม thermage
Q: Ultraformer III ทำกี่ครั้งเห็นผล
A: เห็นผลทันทีในครั้งแรกที่ทำ 10-20% และจะเห็นผลเต็มที่ 1-2 เดือน
Q: ปีนึงควรทำ Ultraformer III กี่ครั้ง ต้องทำบ่อยแค่ไหน
A: ถ้าทำ Ultraformer III ครั้งแรก และอยากให้เห็นผลชัดเจน แนะนำให้ทำเพิ่มอีกครั้งหลังผ่านไป 3 เดือนเพื่อกระตุ้นผิวให้ต่อเนื่อง หลังจากนั้นจึงกลับมาทำอีกทุกๆ 6 เดือนหรือปีละ 2-3 ครั้งเพื่อคงความตึงกระชับ ให้ผิวเด็ก หน้าเรียวกระชับอยู่เสมอ
Q: Ultraformer III ปวดระบมมาก อันตรายไหม
A: อาการปวด ตึง ระบมหลังทำ Ultraformer III เป็นอาการปกติ ไม่อันตรายและจะหายได้เองภายใน 5-7 วัน ถ้ามีอาการปวดระบมมาก สามารถกินยาแก้ปวดได้ หลัง 7 วันถ้าอาการปวดยังไม่ดีขึ้น ควรรีบติดต่อคลินิกที่ทำ ultraformer iii ทันที
Q: ทำ Ultraformer 3 หน้าใสขึ้นไหม
A: ผิวหน้าที่กระจ่างใสขึ้นเป็นผลพลอยได้จากการทำ Ultraformer III เพราะเครื่องสามารถส่งพลังงานถึงชั้นผิวที่มีคอลลาเจนโดยตรง ยิ่งเลือกใช้หัว Cherry Pink จะยิ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี ช่วยให้หน้าใส ผิวกระชับ
Q: Hifu ไม่จำกัดช็อต ดีมั้ย มีจริงเหรอ
A: ไม่ควรซื้อ Hifu ไม่จำกัดช็อต ยิงไม่อั้น เหมาไม่จำกัดช็อต ฯ และหลีกเลี่ยงโปรโมชั่นหรือการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เพราะอาจเป็น Hifu รุ่นเก่า หรือ Ultraformer III ปลอม เกรดต่ำ คุณภาพต่ำ ทำให้พลังงานที่ไม่เสถียร เสี่ยงต่อผลข้างเคียงเช่น ผิวไหม หน้าไหม้ ความร้อนทำลายผิว ปวดระบม ทำแล้วไม่เห็นผล
ก่อนทำ Hifu หรือ Ultraformer III ควรหาข้อมูลเครื่องที่จะทำ ตรวจสอบบริษัทที่นำเข้า เช็กหัวยิงก่อนทำทุกครั้ง และเลือกทำกับคลินิกที่ใช้เครื่อง Ultraformer III แท้และใช้ปริมาณช็อตตามที่คุณหมอแนะนำ เพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุด เห็นผลและปลอดภัย
Q: แก้มตอบ แต่หน้าหย่อน ทำ Ultraformer III ได้ไหม
A: คนที่มีปัญหาเหนียงห้อย หน้าหย่อน สามารถทำ ultraformer III ลดเหนียงได้ ส่วนปัญหาแก้มตอบ ซีรีนคลินิกแนะนำให้เติมฟิลเฟอร์แก้มตอบ เพื่อหน้าที่ตอบดู้เต็มขึ้น หน้าสวยได้รูปมากยิ่งขึ้น
Q: แก้มเยอะ เหนียงเยอะ ยิง Ultraformer III แล้วหน้าจะเล็กลงมั้ย
A: แก้มเยอะ มีกระเปาะแก้ม เหนียงเยอะ คางสองชั้น การทำ ultraformer III จะช่วยได้ในระดับหนึ่งเพราะพลังงานอัลตร้าซาวด์ช่วยกระตุ้นให้ไขมันสลายตัว และช่วยกระชับผิวในเวลาเดียวกัน กระเปาะแก้มจะเล็กลง ผิวกระชับ ยกกระชับแก้มได้ ซีรีนคลินิกแนะนำให้ทำคู่แฟตสลายไขมันเพื่อผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจน
Q: ยิง Ultraformer III กับคนที่ไม่ใช่หมอได้ไหม
A: แพทย์ที่จะทำ Ultraformer III ได้ต้องผ่านการเทรนกับบริษัทที่จำหน่ายเครื่อง ultraformer III โดยตรง แพทย์ที่ผ่านการเทรนและมีประสบการณ์สูง สามารถยิง Ultraformer III ได้ตรงจุด และเลี่ยงบริเวณที่ยิงแล้วเจ็บได้ดี จึงควรทำ ultraformer III กับแพทย์เท่านั้น
Q: ยิง Ultraformer III ช็อตน้อยๆ จะไม่เห็นผลจริงเหรอ
A: การยิง Ultraformer III จำนวนช็อตน้อยๆ จะทำให้เห็นผลน้อยกว่า ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่าเพราะพลังงานน้อยกระตุ้นผิวได้ไม่เต็มที่ แนะนำให้ทำตามที่แพทย์ประเมินเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
Q: Ultraformer III ช็อตกับไลน์ ต่างกันยังไง
A: คลินิกส่วนใหญ่เรียกจำนวนครั้งในการยิง Hifu และ Ultraformer III ว่า “ช็อต” ใน 1 ช็อต จะมีพลังงานเล็กๆ 15-25 จุด เรียงกันเป็นเส้นตรง คลินิกบางที่จึงเรียกว่า “ไลน์” จริงๆ แล้วช็อตกับไลน์เหมือนกัน ให้ผลลัพธ์เหมือนกัน
Q: ultraformer III เหมาะกับใคร ไม่เหมาะกับใคร
A:
อัลตราฟอร์เมอร์ III เหมาะกับ
- คนที่ต้องการแก้ปัญหากระเปาะแก้ม แก้มหย่อน หน้าบาน
- คนที่ต้องการยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว อยากให้ผิวเด็ก
- คนที่ต้องการกระชับผิวที่หย่อนคล้อยหลังลดไขมัน
- คนที่ต้องการลดริ้วรอยตื้นๆ ทั่วหน้า ลดร่องแก้มตื้นๆ ริ้วรอยตื้นๆ รอบดวงตา รอยเส้นจางๆ ที่คอ
- คนที่ต้องการปรับรูปหน้า โดยไม่ใช้เข็มฉีด กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัดยกหน้า
- คนที่ต้องการ Maintain ผิวให้กระชับไปตลอดในระยะยาว
Q: อายุเท่าไหร่ ทำ Ultraformer III ได้
A: สามารถทำ Ultraformer III ได้ตั้งแต่อายุยังไม่เยอะ เพราะเป็นหัตถการที่ปลอดภัย ไม่อันตราย ยิ่งทำเร็วยิ่งเห็นผลดีกว่าทำตอนอายุเยอะแล้ว คนที่เริ่มทำ ultraformer III ตั้งแต่อายุยังน้อย นอกจากหน้าจะเด็กกว่าคนวัยเดียวกัน ผิวยังคงความตึงกระชับ หน้าใส หน้าดูเด็กอยู่เสมอ ผิวไม่โทรมไม่หย่อนคล้อยอีกด้วย
ดริปวิตามินผิวคืออะไร? ดริปวิตามินแล้วผิวจะขาวขึ้นจริงไหม?
- ดริปวิตามินผิว คืออะไร
- วิตามินผิวดีไหม
- วิตามินผิวใสเหมาะกับใคร
- วิตามินผิวที่ Aura Bangkok Clinic มีกี่สูตร ราคาเท่าไหร่
- รีวิววิตามิน ผิวไบรท์ ผิวกระจ่างใส แข็งแรง
- ฉีดวิตามินผิวขาว อันตรายไหม
- ดริปวิตามิน ขาวขึ้นไหม
- ดริปวิตามิน กี่ครั้งเห็นผล
- ฉีดวิตามินผิว หรือดริปวิตามินได้บ่อยแค่ไหน
- ถ้าจะดริปวิตามิน ต้องหยุดกินอาหารเสริมไหม
การดริป วิตามินผิว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส แก้ปัญหาผิวหมอง ผิวโทรม ผิวหยาบกร้าน ผิวขาวไม่เท่ากัน ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น เพิ่มออร่าให้ผิว ช่วยให้ผิวนุ่มลื่น เสริมความแข็งแรงให้ผิวจากภายใน ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า
ดริป วิตามินผิว ดีจริงไหม ทำไมใครๆ ก็ดริปผิว ดริปแล้วจะขาวขึ้นไหม ดริปผิวกี่ครั้ง ดริปผิวที่ไหนดี บทความนี้มีคำตอบ
ดริปวิตามินผิว คืออะไร
การดริปวิตามินผิว IV Drip (Intravenous Vitamin Therapy) หรือการฉีดวิตามินผิว คือการฉีดวิตามินต่างๆ เข้าสู่ร่างกายโดยตรง โดยวิตามินส่วนใหญ่จะช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้น บำรุงสีผิวให้สม่ำเสมอกัน ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงสุขภาพ และช่วยชะลอความแก่
วิตามินผิวดีไหม
ดริปวิตามินผิว หรือ ฉีดวิตามินผิว เป็นการเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นให้กับร่างกายได้ทันที ช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินและนำไปใช้ได้เร็วกกว่าการกินวิตามินแบบเม็ดที่ต้องผ่านการย่อยและดูดซึม
ถ้าเทียบกันระหว่างการกินวิตามิน และ ดริปวิตามิน การเพิ่มวิตามินให้ร่างกายด้วยการดริป ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้เต็มที่ วิตามินที่เข้าไปในร่างกายจึงสามารถฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ได้ทันที ช่วยให้ผิวกระจ่างใสได้เร็ว เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ร่างกายสดชื่น คนที่ต้องการปรับสีผิวให้สว่างขึ้น หรือต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงเพื่อผิวที่นุ่มสื่น มีออร่า การดริปหรือฉีดวิตามินช่วยบำรุงได้ล้ำลึกกว่า ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายในสู่ภายนอก ให้ผลลัพธ์เร็วกว่าการทาครีมบำรุง สำหรับคนที่ต้องการให้ผิวใสขั้นสุด สามารถดริปผิวคู่กับการทาครีมบำรุง เพื่อเร่งผิวใส ปกป้องผิวทั้งภายในและภายนอก
วิตามินผิวใสเหมาะกับใคร
การดริปวิตามิน หรือการฉีดผิวใส เหมาะกับ
- คนที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน ปรับผิวให้สม่ำเสมอกัน
- คนที่ผิวคล้ำเสีย หมองคล้ำ ผิวแห้งหยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื่น
- คนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลตัวเอง พักผ่อนน้อย นอนไม่เป็นเวลา
- คนที่ขาดวิตามินบางชนิด เพราะการกินไม่หลากหลาย กินผักผลไม้ได้น้อย
- คนที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายที่อ่อนเพลียจากการทำงาน การเผชิญมลภาวะ
วิตามินผิวที่ Zerene Clinic มีกี่สูตร ราคาเท่าไหร่
วิตามินผิว IV Drip ได้รับความนิยมสูงสุด และเป็นสูตรเฉพาะที่ Zerene Clinic มี 5 สูตร คือ
- Supreme Detox Booster เป็นวิตามินสูตรที่พรีเมียมและเข้มข้นมากที่สุด และยังเป็นวิตามินสูตรที่ดีที่สุดของซีรีนคลินิก(Zerene Clinic) ที่ช่วยบำรุงล้ำลึก ช่วยฟื้นฟูเซลล์ในระดับDNA ช่วยชะลอวัยและความเสื่อมของร่างกาย ให้ร่างกายคงความอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
- Detox & Booster Secret ช่วยขับสารพิษตกค้าง ฟื้นฟูและชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว พร้อมบำรุงผิวให้กระจ่างใส
- Crystal White ผิวกระจ่างใส ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ต้านอนุมูลอิสระ และชะลอความเสื่อมของร่างกาย
- Snow White เพื่อผิวเปล่งปลั่งสดใส มีออร่า บรรเทาอาการภูมิแพ้ ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ
- Cinderella White Secret *สูตรเฉพาะที่ซีรีนคลินิก เพื่อผิวขาวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอทั่วเรือนร่าง
รีวิววิตามิน ผิวไบรท์ ผิวกระจ่างใส แข็งแรง
ดูรีวิวดริปผิวอีกกว่า 100 รีวิว คลิกเลย!
ฉีดวิตามินผิวขาว อันตรายไหม
หลายคนกลัวการฉีดวิตามิน หรือดริปวิตามิน เพราะกลัวเข็ม หรือกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นเมื่อต้องจิ้มเข็ม การดริปวิตามินผิวใสให้ปลอดภัย ต้องเลือกวิตามินที่สามารถตรวจสอบส่วนผสมได้ ไม่มีส่วนผสมของสารที่อันตราย เลือกรับบริการดริปผิวกับคลินิกที่มีมาตรฐานโดยแพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ
ดริปวิตามิน ขาวขึ้นไหม
สำหรับคนที่มีความต้องการในการปรับสีผิว วิตามินผิวสูตร White Booster+ ช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้ เมื่อดริปต่อเนื่อง 3-6 ครั้งขึ้นไป และดูแลผิวหลังดริปวิตามินอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทาครีมกันแดดที่มีค่าการป้องกันผิวด้วย SPF 50+ PA++++ ขึ้นไป ทาครีมบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำความสะอาดผิวหลังเผชิญมลภาวะ ฯ
เพื่อผิวที่กระจ่างใสยาวนานและเห็นผลชัดเจนมากที่สุด ซีรีนคลินิกแนะนำให้ดริปผิวอย่างต่อเนื่องทุก 1-2 สัปดาห์ในช่วงแรกควบคู่กับการบำรุง เช่นทาครีมหรือทานวิตามินและอาหารเสริม เพื่อให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น
ดริปวิตามิน กี่ครั้งเห็นผล
จำนวนครั้งในการดริปวิตามินขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และส่วนใหญ่แล้วการดริปผิวช่วยให้ผิวลื่นขึ้น ร่างกายสดชื่นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก เมื่อดริปอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผิวกระจ่างใสดูมีออร่า ช่วยปรับสีผิวที่หมองคล้ำให้เปล่งปลั่งขึ้น
ฉีดวิตามินผิว หรือดริปวิตามินได้บ่อยแค่ไหน
วิตามินผิวสูตร Aura White, Aura Anti-Aging, และสูตร White Booster+ สามารถดริป 1 ครั้ง/ สัปดาห์ โดยไม่มีผลข้างเคียงที่อันตราย ไม่ตกค้าง ยิ่งดริปต่อเนื่อง ยิ่งช่วยปรับสีผิว ผิวกระจ่างใสมีออร่า ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง
- เคล็ดลับผิวใส แข็งแรงคูณสอง ซีรีนคลินิกแนะนำ ดริปวิตามิน Anti-Aging ควบคู่กับวิตามินสูตร Aura White หรือ White Booster+ ยิ่งดริปคู่กันจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกาย ฟื้นฟูความอ่อนล้า เสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น
- เคล็ดลับความขาว ผิวออร่า เนียนนุ่มลื่น ซีรีนคลินิกแนะนำ Aura White คู่กับ White Booster+ ดริปคู่กันผิวจะยิ่งเปล่งปลั่ง ปรับสีผิวให้กระจ่างใส
ถ้าจะดริปวิตามิน ต้องหยุดกินอาหารเสริมไหม
สามารถดริปวิตามินทุกสูตรของซีรีนคลินิก ควบคู่กับการกินอาหารเสริมชนิดอื่นได้ตามปกติ ซีรีนคลินิกแนะนำผลิตภัณฑ์ VITAL IV+ ตรา SOLAURA วิตามินผิวในรูปแบบเม็ด จะช่วยให้ผิวใส นุ่มลื่น เติมพลังงานให้เซลล์ ชะลอความเสื่อมของร่างกาย
วิตามินดริปผิวรูปแบบเม็ด SOLAURA VITAL IV+ คิดค้นโดยแพทย์ความงาม ประสิทธิภาพเทียบเท่าดริปวิตามิน White Booster+ ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส เนียนนุ่มลื่นขึ้น ช่วยบำรุงสุขภาพ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิตามินดริปผิวรูปแบบเม็ด SOLAURA VITAL IV+ ได้ที่นี่ คลิก!
ดริปวิตามิน กับ กินอาหารเสริม อันไหนดีกว่ากัน
เปรียบเทียบระหว่าง การกินอาหารเสริม และ ดริปวิตามิน การเพิ่มวิตามินให้ร่างกายด้วยการดริป เป็นวิธีที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้เต็มที่ วิตามินที่เข้าไปในร่างกายจึงสามารถฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ได้ทันที ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ในความเป็นจริงแล้ว การดริปผิวคู่กับการทานวิตามิน เป็นสิ่งที่ดีและช่วยให้ผลลัพธ์ชัดเจน วิตามินทุกสูตรของ Zerene Clinic สามารถทำควบคู่กับการทานวิตามินหรืออาหารเสริมได้ทุกยี่ห้อ
การกินวิตามินผิวรูปแบบเม็ด เช่น SOLAURA VITAL IV+ ที่มีส่วนผสมหลักของอนุพันธ์วิตามินบี 3, วิตามินซี, Grape Seed ฯ ให้ผลลัพธ์เที่ยบเท่ากับการดริปผิวสูตร White Booster+ ยิ่งทานต่อเนื่อง ยิ่งเหมือนได้ดริปผิวทุกวัน
ดริปวิตามิน ผิวขาวถาวรไหม
การดริปวิตามินผิวช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นได้ เมื่อดริปต่อเนื่องตามจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำ และดูแลผิวหลังดริปวิตามินอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทาครีมกันแดดที่มีค่าการป้องกันผิวด้วย SPF 50+ PA++++ ขึ้นไป ทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำความสะอาดผิวหลังเผชิญมลภาวะ ฯ
ทำไมดริปผิวแล้วผิวยังหมอง? เพราะเมื่อผิวโดนแดดแรงๆ ร่างกายจะผลิตเม็ดสีเมลานินออกมา ผิวจึงกลับมาหมอง ผิวกลับไปเป็นเฉดเดิมได้ ไม่เกี่ยวกับการหยุดดริปผิวแต่อย่างใด ดังนั้นเพื่อผิวที่กระจ่างใสยาวนาน ปรับสีผิวให้เห็นผลชัดเจนมากที่สุด ควรดริปผิวและดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง
ดริปวิตามิน ข้อดีข้อเสีย
ดริปผิว ข้อดี
- เห็นผลไวและดูดซึงได้เร็วและดีกว่าการกินอาหารเสริม เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่เร็วและชัดเจน
- ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ ผิวโทรม ให้ผิวใสมีออร่า นุ่มลื่น
- เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น
- เติมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นให้ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายสดชื้น ลดอาการอ่อนเพลีย
- กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ฟื้นฟูร่างกายหลังเจ็บป่วย
- เสริมการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ
ดริปผิว ข้อเสีย
- หลังดริปวิตามินอาจมีรอยเขียวช้ำหรือมีรอยเข็มได้ ซึ่งจะค่อยๆ จางลงและหายได้เองภายใน 1-7 วัน
ดำกรรมพันธุ์ ดริปผิว ผิวจะขาวขึ้นไหม
ร่างกายแต่ละคนจะเห็นผลได้ไม่เร็วเท่ากัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งกรรมพันธุ์และการดูแลตัวเอง ทำให้ผลลัพธ์แตกต่างกันไปในแต่ละคน สำหรับคนที่มีเม็ดสีเมลานินจำนวนมาก ต้องการปรับสีผิวให้สว่างขึ้นจากเดิม ควรดริปผิวอย่างต่อเนื่อง 3-5 ครั้งขึ้นไปทุกอาทิตย์ในช่วงแรก และดริปต่อเนื่องเดือนละ 1-2 ครั้งควบคู่กับการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ
วิตามินหลายๆ ชนิดที่อยู่ในวิตามินดริปผิว ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและกลูตาไธโอนตามกระบวนการธรรมชาติ วิตามินมีส่วนช่วยลดกระบวนการสร้างเม็ดสีของเซลล์ ช่วยให้ผิวแข็งแรง ฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำ จึงทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้น เมื่อผิวแข็งแรงจากภายใน ผิวจึงเปล่งปลั่งกระจ่างใสขึ้นนั่นเอง ถ้าต้องการดริปผิวเพื่อให้ผิวขาว ซีรีนคลินิกแนะนำวิตามินผิวสูตร White Booster+ ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและยังช่วยชะลอวัยถึงชั้นเซลล์ผิวเลยอีกด้วยซีรีนคลินิก
ดริปวิตามิน ราคา กี่บาท
ดริปวิตามินผิว ดริปผิวกระจ่างใส ที่ไหนดี
ดริปวิตามินผิว เป็นบริการที่มีแทบทุกคลินิก ควรดริปผิวที่คลินิกไหนให้มั่นใจว่าปลอดภัย?
- เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน มีใบอนุญาตเปิดกิจการ มีแพทย์ประจำคลินิก แพทย์มีตัวตนจริง เช็คได้ที่ Website: checkmd.tmc.or.th
- คลินิกที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ต้องแสดงใบอนุญาตและเลขที่ใบอนุญาต 11หลัก ในบริเวณที่สามารถสังเกตได้ชัดเจน
- เลือกคลินิกที่ใช้วิตามินสูตรเข้มข้น ไม่ใช้สารแปลกปลอม
- คลินิกที่อุปกรณ์สะอาด คลินิกปลอดโปร่ง
- คลินิกมีความความน่าเชื่อถือ รีวิวบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หน้าเว็บไซต์และช่องทาง Official Page ของคลินิกสมเหตุสมผล มีรีวิวจากลูกค้าที่ใช้บริการจริง
เตรียมตัวก่อนดริปวิตามิน
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินผิวที่ต้องการดริป เช่น ส่วนผสมหลัก ประโยชน์ของวิตามิน
- เลือกคลินิกเสริมความงามที่มีมาตรฐาน
- เลือกคลินิกที่ให้บริการดริปวิตามินผ่านทางเส้นเลือด หรือ IV Drip ดำเนินการโดยพยาบาลวิชาชีพ หรือผู้ช่วยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น
- แจ้งประวัติการแพ้ยา ยาที่ทานประจำ โรคประจำตัว ประวัติการทำศัลยกรรมและภาวะการตั้งครรภ์กับคุณหมอก่อนดริปวิตามินทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
ดูแลตัวเองหลังดริปวิตามิน
- หลังดริปวิตามิน อาจทำให้ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้น หรือมีกลิ่นวิตามินปนกับกลิ่นปัสสาวะ เป็นเรื่องปกติที่ร่างกายขับวิตามินส่วนเกินออกมา กลิ่นจะค่อยๆ หายไปเอง
- อาจมีรอยเข็มบริเวณที่เจาะเข็มดริปวิตามิน และมีรอยช้ำเขียวได้ เป็นอาการปกติที่จะหายได้เองภายใน 1-7 วัน
- ทาครีมกันแดดที่มีค่าการป้องกันผิวด้วย SPF 50+ PA++++ ทุกวัน ถ้าต้องทำกิจกรรมกลางแดดจัดควรทากันแดดเพิ่มระหว่างวันด้วย
- ทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วเพื้อให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น
Q&A วิตามินผิว
Q: ดริปวิตามินผิวขาวถาวรไหม จะกลับมาดำไหม
A: การดริปวิตามินอย่างต่อเนื่อง 1 ครั้ง/ สัปดาห์ ติดต่อกัน 3-5 ครั้ง ช่วยให้ปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้นได้ ถ้าต้องการคงความกระจ่างใส หรือดูแลให้สีผิวไม่เข้มขึ้นเท่าเดิม แนะนำให้ดริปต่อเนื่องเรื่อยๆ ควบคู่กับการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง ส่วนการดริปวิตามินผิวครั้งเดียวแล้วหยุดดริป ไม่ได้ทำให้ผิวดำขึ้นมากกว่าตอนที่ไม่ดริปผิว
ทำไมดริปผิวแล้วผิวยังหมอง? หลังดริปวิตามิน ถ้าปล่อยให้ผิวโดนแดดโดยตรง แสงแดดจะกระตุ้นให้เซลล์ผิวจะผลิตเม็ดสีเมลานินออกมา ทำให้ผิวจึงกลับมาหมองหรือผิวกลับไปเป็นเฉดเดิมได้ ซีรีนคลินิกแนะนำให้หลีกเลี่ยงการโดนแดดโยตรง ทาครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอเพื่อ maintain ผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานและชัดเจน
Q: White Booster+ กี่เดือนกลับมาดริปซ้ำได้
A: คนที่ต้องการบูสต์ผิวใส ฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำ หรือฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า สามารถดริปต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
Q: ทำยังไงให้ขาวขึ้น วิธีทำให้ผิวขาวอย่างปลอดภัย
A: วิธีทำให้ผิวขาว หรือฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำและมลภาวะ มีหลายวิธี เช่น
- ดริปวิตามินผิวกระจ่างใส คู่กับ กินอาหารเสริมและทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ ทากันแดดระหว่างวัน ทาครีมบำรุงผิวเพื่อบำรุงผิวชั้นนอก
- ดริปวิตามินผิวกระจ่างใส คู่กับ การขัดผิว พอกผิว ทำทรีตเมนท์ผิว
- ดริปวิตามินผิวกระจ่างใส คู่กับ การออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี
Q: หลังดริปวิตามิน ผิวจะบางลงไหม
A: การดริปวิตามินผิว ไม่ได้ทำให้ผิวบางลงแต่อย่างใด และไม่ได้ทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอลง แต่ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากภายใน จึงช่วยให้ผิวกระจ่างใส ดูอิ่มฟู เปล่งปลั่ง
Q: ฉีดวิตามินทางเส้นเลือด อันตรายไหม
A: การดริปวิตามินทางกระแสเลือด IV Drip (Intravenous Vitamin Therapy) เป็นหัตถการที่ไม่อันตรายเมื่อดริปกับแพทย์หรือพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่สะอาดและได้มาตรฐานเท่านั้น
Q: มีโรคประจำตัว ดริปผิวได้ไหม
A: ถ้ามีโรคประจำตัว หรืออยู่ระหว่างรักษาอาการผิดปกติใดๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เจ้าของเคส หรือแพทย์ประจำคลินิกก่อนดริปผิว
Q: ดริปผิวขาว รอกี่นาที?
A: ดริปผิว 1 กระปุก มีปริมาณวิตามิน 100 ml. ใช้เวลาดริปวิตามิน 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน
Q: อายุเท่าไหร่ ดริปวิตามินผิวได้
A: สามารถดริปวิตามินได้ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่มีผลเสียต่อร่างกายและไม่ส่งผลต่อการเจริญเติบโต เมื่อดริปผิวกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีส่วนผสมที่ปลอดภัย
Q: ดริปวิตามินบ่อยๆ มีผลข้างเคียงไหม
A: การดริปผิวสัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละ 2-3 ครั้งเป็นช่วงความถี่ที่พอดี และไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกาย ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินที่ดริปได้ทันที ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ มีแค่รอยเข็มและรอยช้ำ เป็นอาการปกติที่จะหายได้เองภายใน 7-14 วัน ถ้าเป็นคนช้ำง่าย สามารถทายาลดรอยช้ำได้