ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ? ก่อนฉีดควรพิจารณาอะไรบ้าง ?
ถ้าไม่อยากดื้อโบท็อกต้องอ่าน !
ฉีดโบท็อกที่ไหนดี
ฉีดโบท็อกหน้าเรียว ที่ไหนดี ก่อนฉีดควรรู้อะไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ !
การฉีดโบท็อกได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นประตูสู่ความงามก็ว่าได้ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่เคยเติมเสริมแต่งอะไรบนใบหน้ามาก่อนเลย ก็มักจะเริ่มด้วยการทำโบท็อก เพราะเป็นหัตถการที่ราคาไม่แพง มีความปลอดภัยสูง และเห็นผลชัดเจน ทั้งในเรื่องของการลดริ้วรอยและการปรับหน้าเรียว
รวมถึงการฉีดเพื่อให้หน้าตึง หน้าใส กระตุ้นคอลลาเจน เป็นหัตถการพื้นฐานที่หมอมักจะแนะนำให้ทำเป็นอันดับแรก ๆ สำหรับคนที่ต้องการเสริมสวยเสริมหล่อ
แต่การฉีดโบท็อก ถ้าไม่ได้ศึกษาข้อมูลว่าควรเลือก ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี ? ฉีดที่คลินิกไหนดี ? เลือกอย่างไร ? มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?บางครั้งอาจจะเจอปัญหาต่าง ๆ ได้
การฉีดโบท็อก ถ้าไม่ได้ศึกษาข้อมูลว่าควรเลือก ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี ? ฉีดที่คลินิกไหนดี ? เลือกอย่างไร ? มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ? บางครั้งอาจจะเจอปัญหาต่าง ๆ ดังนี้
1. โบท็อกปลอม
สำหรับโบท็อกปลอม อาจจะได้ผลดีในการฉีดครั้งแรก ๆ แต่ด้วยตัวยาที่ไม่บริสุทธิ์ เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานต่อต้านโบท็อกขึ้นมาได้ (คล้าย ๆ ตอนที่เราฉีดวัคซีนที่มีเชื้อโรคเพื่อกระตุ้นภูมิต้านทาน) เรียกว่า การดื้อโบท็อก เมื่อฉีดครั้งต่อ ๆ มาถึงแม้ว่าจะใช้ของแท้ที่บริสุทธิ์ ก็อาจจะไม่ได้ผล และการดื้อโบท็อกยังเป็นภาวะที่ยังไม่มีทางรักษา
ส่วนมากถ้าดื้อแล้วจะดื้อทุกยี่ห้อ ต้องรอเวลา 3-5 ปี จนกว่าภูมิต้านทานจะหายไปเอง แล้วค่อยสามารถกลับมาฉีดได้ใหม่ บางเคสอาจจะดื้อเป็น 10-20 ปี ไม่สามารถรักษาริ้วรอยด้วยโบท็อกได้ ต้องทนหน้าเหี่ยวหน้าบานไปตลอด
ก่อนตัดสินใจว่าจะ ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ? ทางที่ดีคนไข้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับจุดสังเกตโบท็อกของแท้ยี่ห้อต่าง ๆ และก่อนฉีดขอให้หมอแกะกล่องเปิดขวด ผสมยาให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง (โบท็อกแท้ทุกยี่ห้อจะมาในลักษณะผลึกขาว ๆ แห้ง ๆ เคลือบที่ก้นขวด จะไม่มีน้ำอยู่ในขวด หมอต้องใส่น้ำเกลือลงไปในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อละลายโบท็อกออกมาฉีด
ถ้าหมอผสมให้ดูแล้วดูดยาออกมาจนหมดขวด ก็จะมั่นใจได้ว่าเราได้ยาครบ 100 ยู จริง ๆ ไม่หายไปไหน) และหลังฉีดควรจะขอกล่องและขวดกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นโบท็อกแท้จริง ๆ
ในกรณีที่ฉีดไม่ถึง 100 ยู ควรจะชวนเพื่อนมาหารให้ครบ100 ยู เพื่อจะได้เห็นตอนเปิดขวดผสมยา
2. เจอหมอกระเป๋า พยาบาล หรือหมอที่ขาดประสบการณ์
ฉีดโบท็อกเหมือนจะฉีดง่ายแต่จะเลือก ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี ? ให้ปลอดภัยและเห็นผล ? โบท็อกหิ้วก็หาซื้อง่ายราคาถูก ตามอินเทอร์เน็ต พยาบาล หมอกระเป๋า ก็มีรับฉีดมากมาย ราคาก็ถูกกว่าปกติหลายเท่าตัว นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคนทั่วไปจึงมักบอกว่าถ้าฉีดโบท็อกแล้ว หน้าจะแข็ง ปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด คิ้วกระดก ตาตก คือฉีดแล้วจะดูออกทันทีว่า ฉีดโบท็อกมา
เพราะคนจำนวนไม่น้อยที่เห็นแก่ราคาถูก ฉีดโบท็อกโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน (โบท็อกปลอม โบท็อกหิ้ว*) หรือฉีดกับคนที่ไม่ใช่หมอ เช่น หมอกระเป๋า พยาบาล หรือหมอที่ขาดประสบการณ์ จึงทำให้ผลการฉีดโบท็อกไม่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ
*โบท็อกแท้ของประเทศอื่นที่หิ้วเข้ามา หลายคนอาจจะสงสัยว่า ไม่ดีอย่างไร ? ทีกระเป๋า นาฬิกา น้ำหอม ยังหิ้วมาใช้ได้ดี ไม่ต้องเสียภาษี แต่โบท็อกในขวดนั้นต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม คือ 2-8 °C ตลอดเวลา เย็นเกินก็สลาย ร้อนเกินก็สลาย เพราะเป็นโปรตีน ดังนั้นในกระบวนการหิ้วที่ต้องหลบซ่อน และรอการ shipping ในตู้คอนเทนเนอร์ บางครั้งต้องรอหลายสัปดาห์ โบท็อกแท้ที่ลักลอบนำเข้าเหล่านี้ไม่สามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิ 2-8 °C ได้ตลอดเวลา คุณสมบัติจึงเสื่อมลง ฉีดแล้วจะอยู่ได้สั้นลงและดื้อยาง่ายขึ้นครับ
*สำหรับโบท็อกปลอมนั้น นอกจากตัวยาที่ไม่บริสุทธิ์และเสี่ยงต่อการดื้อยาแล้ว คุณสมบัติการกระจายของตัวยายังไม่คงที่ บางครั้งกระจายกว้าง บางครั้งกระจายแคบ ทำให้ไม่สามารถคาดคะเนการกระจายของโบท็อกที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ จึงมีโอกาสเกิดปัญหาตามมาได้ง่าย เช่น หน้าแข็ง ปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด คิ้วกระดก ตาตก
สำหรับ หมอกระเป๋า พยาบาล ที่รับฉีดโบท็อก โดยปกติ โบท็อกแท้ที่นำเข้าโดย official distributer จะขายให้กับแพทย์หรือโรงพยาบาลเท่านั้น ดังนั้นยาที่หมอกระเป๋าหรือพยาบาลใช้นั้น จึงมักเป็นยาหิ้วและยาปลอมที่หาซื้อได้ง่ายตามอินเทอร์เน็ต อาจจะได้ผลในการฉีดครั้งแรก แต่ครั้งต่อ ๆ มาจะเริ่มดื้อโบท็อกอย่างรวดเร็ว
ในกรณี เจอหมอที่ขาดประสบการณ์ ในบางคลินิก ไม่ว่าจะตั้งราคาถูกหรือแพง ต้องดูว่าหมอที่จะฉีดให้เรานั้น เป็นหมอประจำคลินิกนั้น ๆ (full-time) หรือไม่ ประสบการณ์กี่ปี ถ้าเป็นหมอที่ประจำคลินิกย่อมต้องพยายามรักษาชื่อเสียงคลินิก สามารถดูจากรีวิวเก่า ๆ ของคลินิกนั้น ๆ ที่ผ่านมาได้ ว่าหมอชื่อนี้ มีผลรีวิวตอบรับของคนไข้เป็นอย่างไร ?
หมอ full-time มักจะเป็นหมอที่มีประสบการณ์สูง แต่สำหรับหมอที่มาตรวจชั่วคราว(part-time) บางคนก็อาจจะมีประสบการณ์สูงแต่ชอบงาน part-time แต่ก็มีความเสี่ยงว่าอาจจะเป็นหมอที่ประสบการณ์น้อย บางคนกำลังเรียนสาขาอื่นอยู่แล้วมารับ job ทำด้านความงามชั่วคราวก็มี ในกรณีนี้คนไข้จะไม่สามารถดูรีวิวได้ว่าหมอคนที่กำลังจะฉีดให้เรานี้มีผลตอบรับเป็นอย่างไร ?
3. รีวิวของคลินิก
สำหรับการหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจว่า ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ? การดูรีวิวที่ถูกต้องนั้น ไม่ควรจะดูรีวิวที่คลินิกโพสต์เพียงฝ่ายเดียว เพราะอาจจะคัดมาเฉพาะเคสที่สวย ๆ แต่ของจริงอาจจะมีเคสหลุดเยอะ ทางที่ดีควรดูรีวิวจากที่คนไข้มาโพสต์ feedback ในแหล่งที่เป็นกลาง (เป็นกลาง ในที่นี้หมายถึงแหล่งที่หากมีเคสหลุดมาโพสต์แล้วทางคลินิกไม่สามารถลบออกได้ เช่น รีวิวติดดาวในเฟซบุ๊ก รีวิวติดดาวใน google map รีวิวตาม website ต่าง ๆ เช่น wongnai pantip)
เพื่อเราจะได้ดู feedback จากเคสจริง ๆ และดูความรับผิดชอบของคลินิก ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องฟังความทั้งสองฝ่ายด้วย บางครั้งโพสต์ที่ complain ก็เป็นการกลั่นแกล้ง ควรอ่านข้อเท็จจริงและคำชี้แจงของทางคลินิกด้วย จึงจะสามารถประเมินคลินิกได้อย่างแท้จริง
4. ไม่ได้เตรียมการปฎิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อกให้ถูกต้อง
- ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ “โบท็อกแท้” ตาม ข้อ 1
- ควรเลือกหาข้อมูล ฉีดโบท็อกซ์ ที่ไหนดี ? โดยดูจากรีวิวของคลินิก และเลือกหมอที่มีประสบการณ์ตาม ข้อ 2, ข้อ 3
- หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือคอร์สเลเซอร์ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรถือโอกาสทำมาก่อนฉีดโบท็อก เพราะหลังฉีดจะต้องงดไป 2 อาทิตย์ จึงจะทำต่อได้
- ควรงดยาในกลุ่มที่ลดการแข็งตัวของเลือดเช่น NSAIDs, แอสไพริน และงดสครับหน้า 2-3 วันก่อนฉีด จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเขียวช้ำ
- หากมีข้อห้ามในการฉีดโบท็อกให้ปรึกษาแพทย์
- หากมีอาการขาดธาตุสังกะสี (ผมร่วงแตกปลาย, เป็นแผลเรื้อรัง, ผิวแห้งลอก, เป็นผื่นง่าย, เล็บแห้งเปราะหักง่าย) ควรเริ่มกินอาหารที่มีธาตุสังกะสี หรือกินอาหารเสริม แต่ไม่ควรกินเกิน 20 mg/วัน ซึ่งจะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ไวขึ้น อยู่ได้นานขึ้น (ไม่จำเป็นต้องกินก่อนฉีด สามารถกินหลังฉีดก็ได้ ก็สามารถช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นเช่นกัน)
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถแอดไลน์ด้านล่างนี้ ปรึกษาคุณหมอซีรีนคลินิกได้ฟรี แอดเลย!
แฟตคืออะไร รวมเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับแฟตที่คลินิกส่วนใหญ่ไม่บอกคุณ
เหนียงก็มี แก้มก็มา หน้าก็ย้อย ไขมันรอบเอวหนา ขาใหญ่ หลายปัญหาที่มาจาก ไขมันส่วนเกินแก้ได้ยาก วิธีลัดของคนที่อยากลดไขมันส่วนเกิน ไม่อยากผ่าตัด กลัวการกินยาลดน้ำหนัก มีเวลาจำกัด คือการ ฉีดแฟต หรือเมโสแฟต เพื่อกระตุ้นการสลายไขมันเฉพาะจุด
การฉีดแฟต เพื่อลดไขมันเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นวิธีที่ปลอดภัย ช่วยลดไขมันเฉพาะจุดที่ลดได้ยาก เช่น ฉีดแฟตเหนียงช่วยให้หน้าเรียว ฉีดแฟตแก้มช่วยให้กระเปาะแก้มลดลง ฉีดแฟตพุงช่วยให้เอวดูบางลง หลายคนเริ่มสนใจการฉีดแฟตกันแล้ว ก่อนฉีดแฟตต้องรู้อะไรบ้าง ฉีดแฟตจุดไหนได้บ้าง แฟตปลอดภัยจริงไหม แฟตมีกี่ยี่ห้อ ก่อนฉีด-หลังฉีดดูแลตัวเองยังไง รวมไว้ให้ในบทความนี้
แฟต (Fat) คืออะไร?
แฟต (Fat) หรือ เมโสแฟต คือการฉีดสลายไขมันตามจุดต่างๆ ของร่างกาย เช่น แก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หรือจุดต่างๆที่มีไขมันสะสม เพื่อลดไขมันและสัดส่วนบริเวณที่ต้องการให้เล็กลง
แฟตอันตรายไหม? ฉีดแฟตสลายไขมันดีไหม
การฉีดแฟตเป็นวิธีการสลายไขมันที่ปลอดภัย ไม่อันตราย เพราะเป็นการฉีด ไม่ต้องผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น เห็นผลเร็วและช่วยลดไขมันสะสมได้ดี เมื่อฉีดแฟตที่มีมาตรฐาน ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง และรับบริการกับคลินิกที่ผ่านการรับรอง
แฟตที่อันตราย ได้แก่ แฟตปลอม แฟตเถื่อน แฟตหิ้ว การฉีดแฟตพวกนี้มีผลข้างเคียง การหลีกเลี่ยงแฟตอันตราย ก่อนฉีดควรตรวจสอบแฟต ตรวจสอบคลินิกที่ใช้บริการ ไม่ฉีดฉีดแฟตหิ้ว แฟตนำเข้า แฟตปลอม ไม่ฉีดฉีดแฟตกับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า หรือซื้อแฟตมาฉีดเอง เพราะแฟตที่ได้มักเป็นแฟตปลอม อาจจะเป็นสเตรียรอยด์หรือตัวยาสำหรับสลายฟิลเลอร์
ควรตรวจสอบแฟตด้วยตัวเองก่อนฉีดทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการฉีดแฟตหิ้ว แฟตนำเข้า แฟตปลอมที่ไม่มี อย. หลีกเลี่ยงการฉีดแฟตกับหมอเถื่อน หมอกระเป๋าหรือซื้อแฟตมาฉีดเอง เพราะแฟตที่ได้มักเป็นแฟตปลอม สเตรียรอยด์หรือยาสำหรับสลายฟิลเลอร์ หมอกระเป๋าและหมอเถื่อนไม่สามารถซื้อแฟตแท้ได้ เพราะแฟตเป็นยาที่มีกฎหมายควบคุม แฟตแท้จะมีเฉพาะในคลินิกที่ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น
ฉีดแฟตลดไขมันดีไหม? การฉีดแฟตจะช่วยสลายไขมันได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด และจะยิ่งเห็นผลชัดเจนเมื่อฉีดแฟตในปริมาณที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง โดยฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่ปลอดภัยและมีมาตรฐาน แพทย์หลายๆ ท่านจะแนะนำให้ฉีดแฟตมากกว่าวิธีการดูดไขมันเพราะการดูดไขมันมีความเสี่ยงและมีอันตรายถึงชีวิตได้
แฟตฉีดจุดไหนได้บ้าง?
แฟตฉีดได้หลายจุด ซึ่งแต่ละจุดใช้ปริมาณแฟตแตกต่างกันไป ถ้าไม่มั่นใจว่าควรฉีดจุดไหนดีให้เห็นผลมากที่สุด สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ Aura Bangkok Clinic ก่อนได้ฟรี
ฉีดแฟตจุดไหนดี
แฟตแก้ม
แฟตแก้ม คือการฉีดสลายไขมันส่วนเกินบริเวณแก้ม เพื่อให้แก้มยุบลง ช่วยให้หน้าดูเล็กและเรียวขึ้น เหมาะกับคนที่แก้มเยอะ แฟตแก้มนิยมฉีดคู่กับแฟตเหนียงเพราะช่วยให้หน้าเรียว V-shape ชัดเจน
แฟตหนียง
การฉีดแฟตเหนียง ช่วยแก้ปัญหาเหนียงห้อย คางสองชั้น เพราะแฟตสามารถสลายไขมันบริเวณเหนียงได้อย่างตรงจุด ถ้าต้องการลดเหนียงและปรับรูปหน้าให้เรียว สามารถทำแฟตเหนียงคู่กับฟิลเลอร์คาง หรือ Ultraformer III เพื่อยกกระชับแก้มและเหนียงที่หย่อนคล้อยได้
แฟตต้นแขน
การฉีดแฟตแขน เหมาะกับคนที่มีไขมันต้นแขนเยอะ จนแขนย้วยไม่กระชับ อยากมีแขนที่เรียวขึ้น แต่มีเวลาที่กำจัด ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากดูดไขมัน หลังฉีดแฟตแขนอย่างต่อเนื่อง แขนจะเล็กลง ใส่เสื้อแขนกุด เสื้อสายเดี่ยวได้มั่นใจมากขึ้น
แฟตนมน้อย
แฟตนมน้อย คือการฉีดแฟตบริเวณข้างรักแร ที่มักจะเนื้อปลิ้นออกมาเวลาใส่สายเดี่ยว เสื้อเกาะอก หรือบราออกกำลังกาย ฯ ทำให้ไม่มั่นใจในการแต่งตัว การฉีดแฟตนมน้อยเป็นตัวช่วยเร่งด่วนสำหรับคนที่กังวลเรื่องเนื้อปลิ้น ลองลดแล้วลดได้ยาก เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่องไขมันนมน้อยจะลดลง ใส่เสื้อผ้าแนวไหนก็มั่นใจมากขึ้น
แฟตปีกหลัง
คนที่มีไขมันปีกหลัง จะเจอปัญหาเดียวกับคนที่มีนมน้อย คือมีเนื้อปลิ้นออกมาเวลาใส่สายเดี่ยว เสื้อเกาะอก ชุดชั้นใน เนื้อด้านหลังเป็นก้อน ไขมันเป็นชั้นๆ ยิ่งใส่ชุดรัดรูปหรือชุดเปิดหลังจะยิ่งเห็นได้ชัด แฟตปีกหลังจะช่วยลดปีกหลังที่ปลิ้น เนื้อที่หนาเป็นชั้นๆ ให้ยุบลง ยิ่งฉีดคู่กับแฟตนมน้อย เนื้อปลิ้นรอบๆ รักแร้จะลดลง ใส่เสื้อผ้าได้อย่างมั่นใจ
แฟตต้นขา
แฟตต้นขาเป็นวิธีลดไขมันต้นขา ลดขาใหญ่ ลดขาตัน ช่วยให้ต้นขาดูกระชับ เพราะไขมันสะสมลดลง แฟตต้นขา เป็นวิธีลดไขมันที่ปลอดภัย ไม่จำเป็น ต้องผ่าตัดและพักฟื้น ไม่มีรอยแผล สามารถลดสัดส่วนได้ตามต้องการหากฉีดอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่เหมาะสม
แฟตพุง
การฉีดแฟตพุง เป็นการสลายไขมัน สะสมบริเวณหน้าท้องและรอบเอว สาวๆที่มีพุงเป็นชั้น พุงห่วงยาง การฉีดแฟตพุงอย่างต่อเนื่องคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้พุงหมาน้อย ลดลงและกระชับขึ้นได้ ช่วยให้หน้าท้องแบนราบ แฟตสลายพุงได้อย่างปลอดภัย เห็นผลเร็วกกว่าการลดไขมันวิธีอื่น และไม่ทิ้งรอยแผล ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
แฟตเอว
เอวหนา เอวใหญ่ มีไขมันรอบเอวทำให้ดูตัวตัน ถ้าอยากมีเอวบาง เอวคอด การฉีดแฟตเอวช่วยลดไขมันรอบเอวได้ การฉีดแฟตเอวต่อเนื่องจะช่วยให้ไขมันยุบลง เอวดูเล็กลง หุ่นดูเพรียวขึ้น ถ้าต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน สามารถฉีดแฟตเอวคู่กับแฟตพุงหรือ Ultraformer III จะช่วยให้ไขมันลดลงได้ดี
ฉีดแฟตลดไขมันกี่ cc
จำนวน cc ที่ฉีดในแต่ละจุดขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสมของร่างกายแต่ละคน ปริมาณเมโสแฟตควรผ่านการประเมินจากแพทย์ และควรฉีดแฟตต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่เห็นผลและชัดเจน
ฉีด Fat กี่วันเห็นผล? ต้องฉีดกี่ครั้ง แฟตอยู่ได้กี่เดือน
จริงๆ แล้วเมโสเมโสแฟต จะสลายไขมันได้อย่างเต็มที่ในช่วง 5-7 วัน เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน แพทย์แนะนำฉีดอย่างต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง ทุกๆ 7 หรือ 10 วัน ถ้าไม่มั่นใจ สามารถฉีด fat ตามจำนวน cc และจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำได้
การเมโสแฟตไม่ได้หยุดกระบวนการสร้างและสะสมไขมันของร่างกาย ดังนั้นนอกจากเมโสแฟต การคุมอาหาร ปรับพฤติกรรมการกิน ลดของมันของทอด จะช่วยให้การสะสมไขมันเกิดได้ช้าลง
ไขมันจะลดตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดแฟตไหม
คนที่ไม่เคยฉีดแฟตมาก่อนเลย กังวลว่าฉีดครั้งแรกจะไม่เห็นผล ฉีดแฟตที่มีมาตรฐานกับคุณหมอที่เชี่ยวชาญในคลินิกที่ได้รับการรับรอง ฉีดในปริมาณที่พอดี ลดไขมันได้ถึง 10-20% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ซีรีนคลินิกแนะนำให้ตรวจสอบแฟตที่จะฉีดทุกครั้ง เพื่อป้องกันการฉีดสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
ฉีดแฟต บวมกี่วัน?
หลังฉีดแฟตจะมีอาการบวมเพียง 4-6 ชั่วโมง เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นกับทุกคน ไม่อันตรายและจะหายได้เอง 1-2 วัน ถ้าเป็นคนที่ช้ำและบวมมาก สามารถกินยาลดอาการบวมได้ หลังฉีดแฟต ซีรีนคลินิกแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแฟตที่จะฉีด จุดเด่นและประสิทธิภาพของแฟตยี่ห้อนั้นๆ
- เลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์สูง ต้องเป็นหมอที่มีตัวตนจริง มีเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม
- แจ้งประวัติการฉีดหน้าและทำศัลยกรรม
- บอกผลลัพธ์ที่ต้องการให้คุณหมอทราบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงจุด
- ประวัติการแพ้ยา, ยาที่กินเป็นประจำ, โรคประจำตัว และภาวะการตั้งครรภ์กับคุณหมอก่อนการฉีดแฟตทุกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน
- 14 วันก่อนฉีด หลีกเลี่ยงการทานวิตามินและอาหารเสริมบางประเภทที่มีฤทธิ์เพิ่มไหลเวียนโลหิต เช่นวิตามินซี เนื่องจากอาจทำให้เกิดรอยช้ำได้ง่าย
- ถ้าต้องทำหัตถการบนใบหน้า เช่น นวดหน้า เลเซอร์ Ultraformer III สามารถทำวันเดียวกันได้แต่ควรทำหัตถการอื่นให้เรียบร้อยก่อนเริ่มฉีดแฟต
การดูแลตัวเองหลังฉีดแฟตลดไขมัน
- งดนวดและกดจุดที่ฉีดแฟต ถ้ามีตุ่มนูน จะค่อยๆ ยุบไปเอง
- ช่วง 4-6 ชั่วโมงแรก งดทาครีมบำรุง และแต่งหน้า
- 1-2 วันหลังฉีดเมโสแฟต งดออกกำลังกายหนัก เพราะจะเพิ่มการไหลเวียนเลือด ซึ่งอาจทำให้แผลบวมนานกว่าปกติ
- หากกังวลเรื่องรอยช้ำ 4-5 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดออกกำลังกายหนัก งดวิตามินและอาหารเสริม เพราะอาจเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือด ทำให้แผลบวมและช้ำนานกว่าปกติ ถ้ามีอาการเขียวช้ำอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นใน 7-14 วัน เป็นอาการปกติ ไม่อันตราย
- 14 วันหลังฉีด หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง เช่น งดทำซาวน่า
- ดื่มน้ำบ่อยๆ ในปริมาณที่พอดี น้ำจะช่วยให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น
ฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี คลินิกฉีดแฟต 2024
แฟตจะเป็นหัตถการที่ปลอดภัย ฉีดแล้วเห็นผล เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์ประเมิน ฉีดแฟต ที่มีมาตรฐาน ในคลินิกที่จดทะเบียนอย่างถูกต้อง จะรู้ได้อย่างไรว่า ควรฉีดแฟตที่คลินิกไหน ซีรีนคลินิกรวมวิธีสังเกตคลินิก เช็กตามนี้ได้เลย
- เช็คเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก คลินิกที่ผ่านการรับรอง ต้องแสดงใบอนุญาตในบริเวณที่สามารถสังเกตได้ชัดเจน
2. เช็คคลินิกที่ได้มาตรฐาน ผ่านช่องทางของสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สายด่วน 1426 หรือโทร : 02-1937000
3. เช็คความน่าเชื่อถือของคลินิกจากรีวิวบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หน้าเว็บไซต์และช่องทาง Official Page ของคลินิก
4. คลีนิกที่ดีควรมีการดูแลและติดตามผลหลังฉีด
5. เช็คชื่อคุณหมอที่ให้บริการในคลินิก สามารถเช็คจากฐานข้อมูลแพทยสภา Website: checkmd.tmc.or.th หรือโทร 0 2193 7000
6. โปรโมชั่นและราคาแฟต และบริการต่างๆ สมเหตุสมผล ไม่แอบอ้างสรรพคุณเกินจริง
เมโสแฟต ข้อดี
- ช่วยลดไขมันสะสมตามจุดต่างๆ ของร่างกายได้ดี
- ฉีดได้หลายจุดทั้งใบหน้า และต้นแขน ต้นขา พุง เอว
- เห็นผลเร็ว ลดสัดส่วนได้เร็ว
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- เฉพาะแฟต ที่ Aura Bangkok Clinic บวมน้อย ช้ำน้อย หายบวมและหายช้ำเร็ว
- ปลอดภัย ไม่ตกค้างในร่างกาย สามารถฉีดซ้ำได้หลายครั้ง
- ยิ่งต่อเนื่อง ยิ่งเห็นผล
เมโสแฟต ข้อเสีย
- การใช้ปริมาณยาน้อยเกินไป อาจไม่เห็นผลตามต้องการ ควรฉีดตามจำนวนที่แพทย์ประเมิน
- หากไขมันสะสมเยอะ จำเป็นต้องฉีดหลายครั้งและต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
ฉีดเมโสแฟตลดไขมัน ราคากี่บาท?
แฟตลดไขมัน หรือ ดูดไขมัน อันไหนดีกว่า
- การดูดไขมันเป็นการลดไขมันที่มีความเสี่ยงสูง แพทย์ส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้ดูดไขมัน เพราะเป็นหัตถการที่เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลอักเสบ ติดเชื้อ เสียเลือดมาก ก่อนดูดไขมันจะมีการกรีดผิวหนัง ทำให้มีรอยแผลเป็น หลังทำต้องพักฟื้นจนกว่าแผลจะหาย ต้องระวังไม่ให้แผลติดเชื้อ ดูแลความสะอาดเพื่อไม่ให้อักเสบเป็นหนอง การดูดไขมันบริเวณหน้ายังอาจทำให้หน้าบุ๋ม หน้าหย่อนได้เพราะ Baby Fat ใต้ผิวถูกดูดออกไปด้วย นอกจากความเสี่ยงสูง การดูดไขมันยังมีราคาแพง และไม่สามารถลดไขมันได้ถาวร
- การฉีดแฟต เป็นการลดไขมันที่เห็นผลเร็วและปลอดภัยมากกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมันในเวลาจำกัด สามารถลดไขมันเฉพาะจุด เช่น เหนียง แก้ม นมน้อย ปีกหลัง เอว พุง ซึ่งเป็นบริเวณที่ลดยาก การฉีดแฟตจุดเล็กๆ ยังคุ้มค่ากว่าการดูดไขมันเพราะราคาถูกกว่า ไม่มีรอยแผลผ่าตัด ช้ำน้อย บวมน้อย หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
Q&A ฉีดแฟต
Q: แฟต สลายไขมันได้ถาวรไหม
A: จริงๆ แล้วเมโสเมโสแฟต จะสลายไขมันได้อย่างเต็มที่ในช่วง 5-7 วัน ระหว่างนี้ไขมันเก่าจะสลายไป ถ้าอยากให้ไขมันลดอีก สามารถฉีดซ้ำได้ตามที่ลูกค้าต้องการ ไม่มีเมโสแฟตตัวไหนที่อยู่ได้นานเป็นเดือน หรือออกฤทธิ์ถาวร เพราะเมโสแฟตทำหน้าที่สลายไขมัน ไม่ได้ยับยั้งการสร้างไขมัน ดังนั้นหลังฉีดไปแล้ว สัดส่วนจะลดลงและจะไม่ใหญ่ไปกว่าเดิม แต่ร่างกายก็ยังสร้างไขมันได้เหมือนเดิม ดังนั้นถ้ากินเยอะ กินของมันของทอด กินน้ำตาลในปริมาณเยอะๆ ไขมันก็จะกลับมาสะสม และทำให้แก้ม เหนียง ต้นแขนต้นขา พุงขยายใหญ่ขึ้น
Q: ทำไมฉีดแฟตแล้วแสบ แฟตที่ไม่แสบเพราะเป็นแฟตปลอมรึเปล่า
A: แฟตบางยี่ห้อ ฉีดแล้วแสบร้อนเพราะแฟตมีส่วนผสมของกรดผลไม้ หรือกรดบางประเภทจึงทำให้แสบระหว่างที่เดินยา ส่วนแฟตบางยี่ห้อมีการพัฒนาให้ฉีดแล้วไม่แสบ โดยการเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยลดอาการแสบ บวม อักเสบทำให้ระหว่างเดินยา จะไม่รู้สึกแสบแต่ยังสามารถสลายไขมันได้ดีเหมือนเดิม อาการแสบจากการฉีดแฟตควรหายภายใน 1 วัน หลังจาก 1 วันถ้ายังมีอาการแสบอยู่ ควรรีบติดต่อคลินิกที่ฉีดและทำการรักษาให้เร็วที่สุด
Q: หลังฉีดแฟตแล้วผิวหย่อนคล้อย หน้าจะเหี่ยว จริงไหม?
A: แฟตส่วนใหญ่ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ หรือแฟตมีส่วนผสมของสารสกัดที่ช่วยเรื่องการกระชับผิว ไม่ทำให้หน้าห้อย คนที่กังวลว่าฉีดแฟตแล้วหน้าจะเหี่ยว สามารถฉีดแฟตคู่กับหัตถการที่ช่วยยกกระชับ เช่น Ultraformer III หรือ Thermage โดยให้คุณหมอที่เชี่ยวชาญเลือกหัตถการที่เหมาะสมให้ได้
Q: ฉีดแฟต อย่างเดียวผอมไหม
A: การฉีดแฟตเพียงอย่างเดียวไม่ได้ทำให้ผอมหรือน้ำหนักลดลง หลังฉีดแฟตรู้สึกว่าผอมลง เป็นเพราะสัดส่วนบริเวณที่ฉีดลดลง หน้าดูเล็กลง ต้นแขนต้นขาเล็กลง เพราะแฟตจะช่วยให้ไขมันใต้ผิวแตกตัว ร่างกายขับไขมันออก ไขมันที่สะสมในจุดที่ฉีดจึงยุบลง ทำให้สัดส่วนลดลงนั่นเอง
Q: แฟตลดไขมัน ทำคู่กับอะไรดี
A: หัตถการที่ทำคู่กับเมโสแฟตแล้วลดสัดส่วนได้ดี เช่น
- แฟตแก้มเหนียง + Ultraformer III เป็นวิธีสลายไขมันและยกกระชับผิวที่ได้ผลดี เหมาะกับคนที่มีแก้มเยอะ มีกระเปาะแก้ม คางสองชั้น หน้าจะเรียวขึ้น แก้มกระชับไม่ย้วยไม่หย่อน กรอบหน้าชัดขึ้น
เมโสแฟต สามารถทำคู่กับหัตถการอื่นๆ ได้หลากหลาย ถ้าไม่แน่ใจว่าควรฉีดเมโสแฟตคู่กับหัตถการไหนเพื่อแก้ปัญหาที่เป็นอยู่ สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอที่ Aura Bangkok Clinic ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
Q: ฉีดแฟตปลอมอันตรายไหม
A: แฟตปลอมอันตรายมาก แฟตหิ้วหรือแฟตนำเข้าที่ผ่านการรับรองจาก อย. เพราะจะไม่สามารถตรวจสอบได้เลยว่าแฟตนั้นมีส่วนผสมอะไรบ้าง การฉีดแฟตปลอมเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงอันตราย เช่น บวมแดง บวมน้ำ แสบผิว ผิวอักเสบ ผิวบุ๋ม ยาไม่กระจายตัว ฉีดแล้วไม่เห็นผล ทำให้เกิดอาการแพ้รุ่นแรง
สารที่มักจะพบในแฟตปลอมหรือแฟตหิ้วมีสองชนิดคือ สเตรียรอยด์และยาสลายฟิลเลอร์
สเตรียรอยด์ มีฤทธิ์ทำลายผนังเซลล์ สามารถทำให้ไขมันฝ่อและสลาย แม้จะฉีดแล้วลดไขมันได้แต่การใช้สเตรียรอยด์ฉีดทดแทนแฟตต้องฉีดในปริมาณมากซึ่งเป็นการใช้งานผิดประเภท จะทำให้เกิดอันตราย บวมแดง บวมน้ำ แสบผิว ผิวอักเสบง่ายเพราะสเตรียรอยด์กดภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase) หรือยาสำหรับสลายฟิลเลอร์ สามารถสลายพันธะฟิลเลอร์ได้ดี แต่การใช้ฉีดแทนแฟต ต้องใช้ปริมาณมาก ซึ่งจะทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวยุบลง ยิ่งฉีดบ่อยคอลลาเจนจะยิ่งฝ่อ ผิวจะเหี่ยวและหย่อยคล้อย
Q: ฉีดสเตรียรอยด์แทนแฟตได้ไหม
A: สเตรียรอยด์ไม่ควรนำมาฉีดเพื่อลดไขมัน เพราะการฉีดปริมาณมากๆ ติดต่อกันจะทำให้ผิวอ่อนแอ เกิดการบวมแดง แพ้และอักเสบได้ง่าย ผิวบุ๋มเป็นหลุม เกิดอาการบวมน้ำได้
Q: ฉีด Fat ไม่เห็นผลเกิดจากอะไร
A: ฉีดแฟตลดไขมันไม่เห็นผล เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ฉีดไม่ต่อเนื่อง ฉีดครั้งเดียว การฉีดแฟตควรฉีดตามจำนวนครั้งที่แพทย์ประเมิน ถ้าไขมันเยอะ อาจจะต้องเข้ามาย้ำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- ฉีดแฟต จำนวน cc น้อยเกินไป ควรใช้จำนวน cc ที่พอดีกับไขมันในบริเวณนั้นๆ ถ้าฉีดแฟตน้อยเกินไปอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจน ควรให้คุณหมอผู้เชี่ยวชาญประเมินจำนวนแฟตที่เหมาะสมให้ก่อนฉีด
- ฉีดแฟตอย่างเดียวไม่ปรับพฤติกรรม ไม่ปรับการกินอาหาร ไม่ออกกำลังกาย การฉีดแฟตไม่ได้หยุดกระบวนการสร้างและสะสมไขมันของร่างกาย ดังนั้นนอกจากฉีดแฟต การคุมอาหาร ปรับพฤติกรรมการกิน ลดของทันของทอด จะช่วยให้การสะสมไขมันเกิดได้ช้าล
- ฉีดแฟต ผสมน้ำเกลือ คลินิกที่ไม่มีมาตรฐานมักเอาน้ำเกลือมาผสม เพื่อลดต้นทุน จนทำให้ไม่เห็นผลหรือเห็นผลน้อย เพราะตัวยาไม่เข้มข้นมากพอที่จะสลายไขมันได้ เฉพาะที่ ซีรีนคลินิก แฟตทุกเข็มมีตัวยาเข้มข้นเต็มหลอด ไม่ผสมน้ำเกลือ แสบน้อย บวมน้อย ยุบไว ลดไขมันได้ตั้งแต่ครั้งแรก
Q: ซื้อเมโสแฟตมาฉีดเอง อันตรายไหม
A: ไม่ควรซื้อเมโสแฟตมาฉีดเอง เพราะ แฟตแท้เป็นยาที่มีกฎหมายควบคุม คนทั่วไปไม่สามารถซื้อมาฉีดเองได้ เมโสแฟตที่ขายอยู่บนแพลตฟอร์มต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นแฟตปลอม ฉีดแล้วไม่เห็นผลหรือมีผลข้างเคียงที่อันตราย ทำให้ผิวอักเสบ ติดเชื้อ บวมแดง ฯลฯ ไม่ควรฉีดแฟตเองทุกกรณี ควรฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะการฉีดเมโสแฟต ต้องฉีดลงไปในชั้นไขมัน การฉีดลึกเกินชั้นไขมันทำให้ไขมันไม่สลาย และการฉีดตื้นเกินไปก็ทำให้เกิดตุ่มนูน
Q: ฉีดแฟตแล้วเขียวช้ำ ทำยังไง
A: รอยเขียวช้ำหลังฉีดแฟต เกิดจากเข็มเจาะโดนเส้นเลือดฝอยเล็กๆ เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกเคส และคนที่ช้ำง่ายจะมีรอยช้ำมากกว่าคนทั่วไป ปกติรอยช้ำจะหายได้เองภายใน 7-14 วัน ถ้าเขียวช้ำมากสามารถกินยาลดรอยช้ำได้
Q: ฉีด fat หลายจุดพร้อมกันได้ไหม
A: แฟตสามารถฉีดหลายจุดพร้อมกันได้ ไม่อันตราย จุดที่นิยมฉีดพร้อมกัน เช่น แก้มกับเหนียง พุงกับเอว ข้อควรระวังเมื่อฉีดแฟตหลายบริเวณพร้อมกันคือ อาการปวดบวมและช้ำ แต่อาการเหล่านี้สามารถหายเองได้ใน 4-6 ชม. ถ้าปวดบวมมาก สามารถกินยาลดบวมได้
Q: หลังฉีดแฟต เว้นกี่วันถึงกลับมาฉีดซ้ำได้
A: เพียง 7 วันหลังจากฉีดครั้งล่าสุด ก็สามารถฉีดซ้ำได้ ไม่เป็นอันตราย ซีรีนคลินิกแนะนำว่า ครบ 7 วันแล้วควรกลับมาฉีด ไม่ควรเว้นช่วงนานเพราะไขมันจะกลับมาสะสมเยอะ ทำให้สัดส่วนขยายใหญ่กว่าเดิม
Q: หลังฉีดแฟต ออกกำลังกายได้ไหม
A: ถ้าไม่กังวลเรื่องรอยช้ำ หลังฉีดแฟต 1 วันก็สามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้
Q: อายุเท่าไหร่ สามารถฉีดแฟตได้
A: อายุที่สามารถฉีดแฟตได้ คือ 18 ปีขึ้นไป ถ้าอายุน้อยกว่า 18 ปีต้องมีใบรับรองคำยินยอมจากผู้ปกครอง และเข้ารับบริการพร้อมกับผู้ปกครองเท่านั้น